เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงเลขสาม

กาลเวลาเปลี่ยน ที่เดิม จิตไม่เหมือนเดิม

เมื่อเราใช้ชีวิตมาถึงจุดหนึ่ง เดินข้ามวันเวลามา หมื่นกว่าวัน ช่วงเวลาสุขทุกข์ เสียงหัวเราะ น้ำตาที่ไหลริน ผ่านไปแต่ล่ะวัน มีสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้มากมาย
1. ไม่ว่าเจอเรื่องไม่ดีในชีวิตมาแค่ไหน สิ่งที่ทำให้เราก้าวผ่านอุปสรรคทุกอย่างไปได้ คือสติ
2. หากในช่วงเวลาหนึ่ง มีโอกาสเข้ามาหลายอย่างพร้อมกัน จงเลือกสิ่งที่เห็นภาพและความเป็นไปได้มากที่สุด แล้วทำสิ่งนั้นให้เต็มที่ โดยสนใจที่ผลงาน มิใช่ค่าตอบแทน แล้วให้บรรจงสร้างผลงานให้เป็นชิ้นโบว์แดง สิ่งอื่นจะตามมาโดยไม่ได้ร้องขอ
3. วันที่อยู่ที่สูง ผู้คนมากหน้าหลายตา จะร่ายล้อมเข้ามาหา อย่าได้หลง แต่พึ่งประจักษ์และย้อนมองดูพัฒนาตนต่อไป
4. จงใช้ชีวิตเพื่อมองหาว่า คุณค่าของการใช้ชีวิตของเราเป็นอย่างไร มองอนาคตตัวเราว่าอยากเดินแบบไหน แม้บางครั้งอาจจะไม่ใช่ทางเดินเหมือนใครใคร ไม่ต้องสนใจผู้ใด เพราะความสุขของเราไม่มีทางเหมือนกับคนอื่น นี่คือชีวิตของเรา ขอเพียงแค่ไม่ใช่หนทางที่ทำให้ใครต้องเดือดร้อน
5. สุข ทุกข์ เป็นของคู่กัน เมื่อเราสุขจากเรื่องใด เดี๋ยวเราก็จะทุกข์กับเรื่องนั้น แค่ทำใจให้เป็นกลาง เมื่อสุขไม่สุขมากไป เมื่อทุกข์ไม่จมทุกข์เสีย เดินทางใช้ชีวิตด้วยความเข้าใจสัจธรรมบนโลกใบนี้ ใดๆในโลกล้วนไม่เที่ยงหนอ
6. พรที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้ มิใช่เงินตรา แต่คือสุขภาพที่ดี
7. สิ่งที่ทำให้มนุษย์เกิดข้อขัดแย้งกันมากที่สุด มักเกิดจากความไม่เข้าใจแต่ล่ะฝ่าย เพราะมนุษย์เราล้วนเกิดและเติบโตมาคนล่ะแบบ ส่วนใหญ่มักจะเอาตัวเองเป็นไม้บรรทัด มาวัดสิ่งที่คนอื่นเป็น โดยลืมไปว่า มนุษย์เราไม่ได้มีเพียงมิติเดียวที่จะสามารถเข้าใจจากสิ่งที่เราเห็น และเราเป็นได้ เปลี่ยนจากคำถามว่า ทำไมคนนั้นถึงเป็นแบบนั้น เป็น วางเฉยเสีย มองชีวิตคนเหมือนมองละคร สุดท้ายแต่ล่ะคนจะเดินตามรอยวาระกรรมที่ตัวเองสร้างไว้นั่นแล
8. ประสบการณ์ที่สอนเราได้ดีที่สุด ต้องเจ็บจริง สุขจริง ทุกข์จริง แม้ศึกษาทฤษฏีมาเป็นร้อยห้องเรียน ก็มิอาจจะทดแทนได้เพียงหนึ่งบทเรียนที่เราเจอ และผ่านการทดสอบแต่ล่ะบทเรียนนั่นได้
9. การเรียนรู้ความสำเร็จจากผู้อื่น เป็นสิ่งที่ดีที่เราจะได้เรียนรู้แนวคิด ส่วนวิธีการ เรียนรู้ได้เพียงกึ่งหนึ่งเพราะความสำเร็จเป็นวิธีการในอดีต เมื่อลงมือทำ คุณจะต้องเริ่มหาวิธีการความสำเร็จแบบฉบับของตัวเอง เพราะชีวิตเราไม่ได้มีตัวแปรในชีวิตเหมือนผู้สำเร็จแต่ล่ะคนที่เราเรียนรู้
10. จงมองหาข้อดีข้อด้อยในตัวเองให้เจอ แล้วใช้ข้อดีเป็นตัวนำ พัฒนาข้อด้อยเป็นตัวตาม หรือมองหาพันธมิตรที่มีข้อดีที่เราด้อยในการช่วยส่งเสริมกัน
11. ฝึกมองเรื่องความตายให้ชิน ไม่ว่าจะเป็นตัวเราตายจาก หรือคนรอบข้างที่เรารักตายจาก เพื่อให้เตรียมวิถีเมื่อวันนั้นมาถึง จงเข้าใจและกล้าหาญที่จะยอมรับชะตาเหล่านั้น
12. ความรักบนโลกใบนี้ เป็นสิ่งที่มีพลังที่จะขับเคลื่อนชีวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะครอบครัว คนรัก หรือมิตรสหาย ถ้าไปในทางที่ดีส่งเสริมกัน จะส่งพลังเกื้อกูล เป็นตัวคูณในชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าไปในทิศทางที่เห็นต่าง จะส่งพลังงานความทุกข์มหันต์ เหมือนโลกทั้งใบมันสูญสลายหายไป ดังนั้น เมื่ออยู่แล้วเห็นดีจงเกื้อกูล เมื่ออยู่แล้วเห็นต่างจงเว้นระยะห่าง
13. คนรักที่ใช่ไม่ได้หมายถึงคนดี แต่หมายถึงคนที่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็น รับในตัวตนของเราได้ กล้าตำหนิในสิ่งที่เราทำไม่ถูก เป็นกำลังใจที่ดีให้แก่กัน และพร้อมฝ่าฟันทุกอุปสรรคไปด้วยกัน เมื่อเจอแล้วจงรักษากันและกันให้ดี
14. อย่ามัวแต่ทุ่มเวลาทั้งชีวิตหาเงินตรา จนลืมดูแลสุขภาพ ต่อให้มีเป็นหมื่นล้าน ถ้าชีวิตต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นก็ไม่ใช่ชีวิตที่ใครใครอยากจะเป็น บาล้านชีวิตให้ดี อย่าโกงร่างกายเลย
15. เมื่อเกิดมาบนโลกใบนี้ บุคคลที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีและไม่ดีให้กับเราได้ชัด คือพ่อกับแม่ จงเลือกสิ่งที่ดีของพ่อกับแม่มาปฏิบัติ ส่วนสิ่งที่ไม่ดี จงทำความเข้าใจ ศึกษาในโทษของการกระทำที่เกิด แล้วจงหลีกเลี่ยงที่จะปฏิบัติเสีย
16. จุดเริ่มต้นของการเรียนรู้คือการคิดที่จะเรียนรู้ แล้วสิ่งต่างๆจะตามมาเอง ไม่ว่าจะหนังสือ อินเตอร์เน็ต หรือผู้คน
17. สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรศึกษาให้ลึก คือภาษี
18. สิ่งที่ควรมีต่ออาชีพ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร หรือธุรกิจใด คือ จรรยาบรรณในวิชาชีพ อย่าแสวงหาผลกำไรตัวเอง มากจนลืมความคาดหวังของผู้คน และหยาดเหงื่อแรงกายที่เค้าจะได้เงินมาแต่ล่ะบาท
19. ชีวิตคือการทดลอง จงเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิต เมื่อทำผิดพลาด หกล้ม จงลุกขึ้นแล้วเดินใหม่ โดยหาสาเหตุของความผิดพลาดแล้วเรียนรู้ว่าใช้ชีวิตแบบนี้จะบาดเจ็บจะได้ระวังในการใช้ชีวิต รู้จักให้อภัยตัวเองให้เป็นในการเริ่มต้นใหม่ แต่หากผิดแบบเดิมเกิน 3 ครั้ง นั้นเรียกว่า ไม่เกิดการเรียนรู้ในอดีต คุณก็จะผิดแบบเดิมอีกต่อไป เพราะชีวิตไม่ได้รับการพัฒนาในสิ่งที่เราได้เรียนรู้ไป
20. ความเสียหายที่หนักที่สุด คือการเห็นผิดเป็นถูก
21. คำพูด 2 คำที่ควรใช้ให้ชิน “ขอบคุณ” เมื่อได้รับสิ่งดีๆจากผู้อื่น “ขอโทษ” เมื่อรู้สึกผิดหรือทำผิดพลาดกับใคร
22. จงกล้าที่จะเป็นตัวเองในแบบตัวเอง แม้ไม่เหมือนใคร
23. ในบางสถานการณ์ ต้องรู้จักละทิ้งตัวตน ให้เกียรติ สถานที่ ผู้คน ให้เป็น
24. ทุกอย่างมี 2 ด้านเสมอ เวลาประเมินสถานการณ์ อย่ามองแต่มุมดี จงรู้จักมองมุมที่แย่ที่สุดให้ออก ว่าถ้าแย่ที่สุดจะจัดการอย่างไร หาวิธีรับมือแบบไหน
25. เมื่อมั่นใจในเส้นทาง อย่าใช้ชีวิตแบบ All in เทหมดหน้าตักที่มี เดิมพันทุกอย่างของชีวิต เผื่อไว้ในจุดที่พลาดบ้างก็ไม่เสียหายอะไร
26. ค่อยๆโต ส่วนใหญ่มักโตแบบมั่นคง ส่วนคนที่เติบโตไว หากการจัดการไม่ดี จะล้มได้ไว
27. คนที่ล้มตั้งแต่สำเร็จขั้นต้น จะมีการระวังเมื่อเดินขึ้นอีกครั้ง ส่วนคนที่ล้มตอนอยู่บนยอดภูเขาสูงชัน จะเจ็บหนัก บางรายอาจจะไม่กลับไปทำสิ่งเดิมอีกเลย ส่วนคนที่สามารถผ่านวิกฤติจุดนั้นไปได้จะขึ้นไปสู่ภูเขาที่สูงกว่าเดิม
28. ยามลำบาก คุณจะค้นพบมิตรแท้ และ กัลยาณมิตรที่แท้จริง
29. ความฝันเป็นสิ่งที่ดี ความหวังเป็นพลัง ความจริงคือปัจจุบันที่จะเดิน หากมีฝันและมีหวัง เราจะเดินไปอนาคตอย่างมีจุดหมายและมีพลัง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *